ประเภทของหนังแท้ (Leather type)

ในที่นี้ขออธิบายหนังที่มาจากวัว นะครับ ซึ่งเป็นหนังที่มีการนิยมใช้กันมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเอามาทำเครื่องหนังชนิดต่างๆ เช่น เข็มขัด รองเท้า กระเป๋าสตางค์จากหนัง เบาะหนัง เป็นต้น

ซึ่งเราสามารถแบ่งหนังแท้เป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ดังนี้
1. Top grain leather หรือหนังชั้นบนสุดของหนังวัว ซึ่งเป็นหนังที่ดีที่สุด ลวดลายสวย เป็นธรรมชาติที่สุด แข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับการนำมาทำเครื่องหนังชนิดต่างๆ สำหรับใช้งานมากที่สุด เช่น ทำกระเป๋าสตางค์หนังแท้ เข็มขัดหนังแท้ รองเท้าหนังแท้

ซึ่งผิวบนสุดของหนังชั้นนี้ จะมีชื่อเรียกว่า Full grain leather เป็นหนังชั้นบนสุด และดีที่สุดที่นำมาทำเครื่องหนังอย่างกระเป๋าสตางค์หนังแท้

ซึ่ง Full grain leather ยังแบ่งย่อยตามการย้อมสีได้เป็น
– aniline leather ผ่านการย้อมสี (dyes) ลงลึกเข้าไปในชั้นของหนัง จึงไม่มีการเคลือบผิว(Coating) กันริ้วรอยจากการใช้งาน และคราบจากการใช้งานอีกชั้น ซึ่งสังเกตุ ได้จากส่วนบน(ที่เป็นลายหนัง) กับท้องหนัง(ส่วนใต้หนัง) จะมีสีไม่ต่างกันมากจนเกือบจะเป็นสีเดียวกัน ทั้งส่วนบนและส่วนท้องหนัง

ในส่วนนี้จะได้หนังที่นุ่ม สีและลวดลายออกมาอย่างธรรมชาติที่สุด หนังประเภทนี้ยิ่งผ่านการใช้งานยิ่งนาน สีของหนังจะยิ่งเข้มขึ้น ดูสวยงามตามการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งหนังประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่หลงไหลเครื่องหนังแท้ แบบดิบๆ ดั้งเดิม เป็นธรรมชาติที่สุด

– semi aniline leather ผ่านการย้อมสี บางส่วนของแผ่นหนัง เช่นเฉพาะส่วนผิว และมีการเคลือบผิวเข้าไป ทำให้สีบนหนัง จะเข้มกว่าท้องหนัง อย่างเห็นได้ชัดเจน

2. Split leather คือส่วนหนังชั้นที่เหลือ หลังจากที่ได้เฉือนเอาส่วนของ Top grain ออกไปแล้วนั่นเอง ซึ่งหนังส่วนนี้ จะเป็นหนังกลับ(Suede) ทั้งสองด้าน

ซึ่งหนังในส่วนนี้จะเป็นหนังที่มีความทนทาน แข็งแรง น้อยกว่าหนังในส่วนของ Top grain leather อย่างชัดเจน และได้นำเอาหนังส่วนนี้ไปทำเครื่องหนังประเภทต่างๆ ตามชนิดของกรรมวิธีการผลิต เช่น หนังกลับ(Suede) หนังนูบัค(Nubuck) เป็นต้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *